13 แนวทางชุมชนปลอดภัย
ชุมชนปลอดภัย (Self Communities)
เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการดำเนินงานสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โดยชุมชนที่จะเข้าร่วมในเครื่อข่ายชุมชนปลอดภัยนั้นอาจเป็นชุมชนระดับหมู่บ้าน จังหวัด หรืออื่นๆแต่ที่สำคัญ ชุมชนต้องแสดงความตั้งใจอย่างแท้จริงในการดำเนินงาน โดยใช้หลัก 13 แนวทางชุมชนปลอดภัย ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มต่างๆในชุมชนร่วมมือกัน..เพื่อผลระยะยาว
การดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บต้องมีจุดเริ่มมาจากความสนใจและความต้องการของคนในชุมชนนั้นๆอย่างแท้จริงโดยที่คนในชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมทั้งร่วมคิด วางแผน ทำงานและการติดตามผลการดำเนินงาน ซึ่งเป็นในลักษณะการจัดตั้งกลุ่มพหุภาพ(Cross SectorialGroup) ในระดับชุมชน หมายถึง การรวมตัวกันของกลุ่มประชาชนหรือกลุ่มองค์กรต่างๆที่มีอยู่แล้วในชุมชน เช่น ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น อสม. กลุ่มแม่บ้านฯลฯ การดำเนินงานในระยะแรกเน้นการรวมตัวกันของกลุ่มพหุภาพ
2. เชื่อมโยงหน่วยงานภายนอกร่วมแก้ปัญหา
การประสานงาน คือ กลยุทธ์สำคัญของความสำเร็จ เริ่มจากชุมชนสร้างเครือข่ายในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างบุคคล กลุ่มในชุมชนของตน เช่น คณะกรรมการชุมชน กลุ่มครอบครัว ฯลฯ ไปจนถึงการประสานงานกับองค์กรภายนอกที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น หน่วยงานที่ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค งานสาธารณสุข มูลนิธิ สมาคมต่างๆ ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวที่ชัดเจน
3. ชุมชนสนใจแก้ปัญหาการบาดเจ็บทุกรูปแบบ
กระบวนการจัดการกับปัญหาการบาดเจ็บและสร้างเสริมความปลอดภัยนั้นชุมชนต้องให้ความสนใจในการแก้ปัญหาการบาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจ เช่น การตกจากที่สูง จมน้ำ ไฟฟ้าดูด ฯลฯและการบาดเจ็บโดยตั้งใจ เช่น เด็กถูกทำร้ายร่างกาย ฯลฯ ซึ่งต้องพิจารณาตามลำดับความสำคัญโดยวิเคราะห์จากสถิติและอุบัติการณ์ในชุมชน
4. อย่าละเลยความเสี่ยง
ชุมชนให้ความสนในเป็นพิเศษกับกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กในครอบครัวยากจน เด็กพิการ เด็กเร่ร่อน ฯลฯ เด็กเหล่านี้มีภาวะความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บสูงกว่าเด็กทั่วไป เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ศักยภาพของผู้ดูแลเด็ก รวมถึงข้อจำกัดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
5. ชุมชนมีระบบการเฝ้าระวังการบาดเจ็บที่ชัดเจน
มีการสร้างระบบการเฝ้าระวังการบาดเจ็บในชุมชน โดยมีการบันทึกการบาดเจ็บ ประโยชน์ที่ได้จากการบันทึกมีดังนี้
- ชุมชนใช้การบันทึกในการประเมินขนาดของปัญหาในแบบต่างๆ
- ค้นหาสาเหตุของปัญหานั้นๆ คือ ปัจจัยเสี่ยงของการบาดเจ็บแบบต่างๆ
- ใช้ในการประเมินผลการดำเนินงานต่างๆของชุมชนในการป้องกันการบาดเจ็บ
- นำเรื่องราวของการบาดเจ็บแต่ละรายมาเผยแพร่แก่ประชาชนในชุมชน เพื่อเป็นบทเรียนที่มีคุณค่า นำไปสู่การสร้างจิตสำนึกในการป้องกันการบาดเจ็บ
6. มีระบบการเดินสำรวจความปลอดภัย
มีระบบการสำรวจความปลอดภัยในสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมเสี่ยง
- ลักษณะพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ผู้ปกครองขาดความระมัดระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน การเลือกซื้อของเล่นให้เด็ก การขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมาฯลฯ
- ความปลอดภัยในสิ่งแวดล้อม เช่น มีสุนัขจรจัดหรือไม่ สนามเด็กเล่น วัสดุ อุปกรณ์ มีความปลอดภัยเพียงไร
7. ต่อต้านพฤติกรรมเสี่ยงและผลิตภัณฑ์อันตราย
ชุมชนร่วมกันต่อต้านพฤติกรรมเสี่ยงและสิ่งแวดล้อมอันตราย ดังนี้
- ต่อต้านพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก อันจะนำไปสู่การบาดเจ็บในเด็ก
- ต่อต้านผลิตภัณฑ์เสี่ยงและสิ่งแวดล้อมอันตรายที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ
ซึ่งชุมชนต้องให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องของอันตรายจากความเสี่ยงต่างๆและผนวกเข้ากับวิธีการป้องกันและแก้ไข
8. ส่งเสริมการใช้อุปกรณ์เสริมความปลอดภัย
ชุมชนมีการสนับสนุนการใช้อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยต่างๆ เช่น หมวกกันน๊อค ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กในรถยนต์ จักรยานยนต์ เครื่องตรวจจับควันไฟ ฯลฯ
9. ชุมชนจัดการฝึกอบรมเพิ่มพูนความรู้
ชุมชนมีกระบวนการฝึกอบรมที่เหมาะสมเพื่อเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชน ในเรื่องของการป้องกันควบคุมการบาดเจ็บในเด็ก วิธีการปฐมพยาบาลและการปฏิบัติการณ์กู้ชีพเบื้องต้น
10. เตรียมพร้อมรับภาวะฉุกเฉิน
มีการเตรียมความพร้อมรับภาวะฉุกเฉินต่าง ๆที่เกิดขึ้นในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นอัคคีภัย วาตภัย อุบัติเหตุ ซึ่งชุมชนต้องมีระบบการจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน เช่น การรักษาพยาบาลฉุกเฉินในชุมชนและการส่งต่อ เป็นต้น
11. ใช้ทรัพยากรของชุมชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สามารถดำเนินการระยะยาวโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ปกติในชุมชน เช่น บุคลากร งบประมาณฯลฯ ใช้สิ่งเหล่านี้ให้เกิดคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่องานสร้างเสริมความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพราะในแต่ละชุมชนนั้นมีกระบวนการ ค่านิยม ทัศนคติที่แตกต่างกัน
12. มีตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน
มีการประเมินภายในชุมชนโดยกำหนดตัวชี้วัดที่เหมาะสมสำหรับชุมชนเพื่อใช้เป็นเครื่องมือวัดผลการดำเนินงาน ซึ่งอาจใช้เกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยขั้นต่ำที่เป็นเกณฑ์ชี้วัดความสามารถของการดูแลเด็กและครอบครัวหรือประเมินผลข้อมูลจากการสำรวจการบาดเจ็บและการเฝ้าระวังการบาดเจ็บมาเป็นตัวชี้วัดของชุมชนเอง รูปแบบตัวชี้วัดในชุมชน ได้แก่
- ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษ สารเคมี แหล่งเสื่อมโทรม ฯลฯ
- ด้านผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น การบาดเจ็บจากเครื่องเล่นที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานฯลฯ
- ด้านการป้องกันแก้ไข เช่น วิธีการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม ให้ความรู้แก่คนในชุมชน การปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ฯลฯ
13. องค์ความรู้ชุมชน..สำคัญที่การปฏิบัติและขยายผล
มีการรวบรวมความรู้ประสบการณ์ที่ได้จากการดำเนินงานภายในชุมชนเผยแพร่สู่ชุมชนอื่นเพื่อให้เกิดการขยายผลการดำเนินงานสร้างเสริมความปลอดภัยซึ่งอาจใช้เทคนิคการประชาสัมพันธ์เข้าช่วย เช่น การจัดประชุมชุมชนต่างๆ การพูดในที่สาธารณะ การจัดนิทรรศการหรือชุมชนประสานกับทางสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ เพื่อให้เกิดการเข้าใจที่ตรงกันในวัตถุประสงค์ เกิดกระบวนการผลักดันเข้าสู่นโยบายระดับชาติต่อไป